โวยสนั่น ! หลานถูกหมารุมกัดแต่ทำอะไรไม่ได้ ถามหรือตอนนี้หมาสำคัญว่าเด็ก ?

 ชาวเน็ตโวย หลานถูกสุนัขรุมกัด แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะกลัว พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ แถมเจ้าของสุนัขยังไม่ยอมรับ ถามทุกวันนี้สุนัขสำคัญกว่าเด็กแล้วงั้นหรือ

          ยังคงเป็นประเด็นต่อเนื่อง สำหรับเรื่องราวการนำกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ มาบังคับใช้ในสังคมปัจจุบันเพื่อปกป้องเหล่าสุนัข แมว รวมถึงสัตว์อื่น ๆ จากการถูกทำร้าย แต่ก็ไม่วายมีคนอีกกลุ่มออกมาตั้งคำถามถึงเหล่าคนรักสัตว์ทั้งหลาย โดยเฉพาะคนรักสุนัข ขอให้คิดถึงกลุ่มผู้ที่ได้รับความเดือนร้อนจากสุนัขบ้าง พร้อมชี้ว่าทุกวันนี้คนที่ได้รับความเดือนร้อนจากสุนัขแทบจะไม่มีที่ยืนแล้ว 

          ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2559 ก็ได้มีอีกเสียงหนึ่งจากผู้ที่ได้รับความเดือนร้อนจากสุนัข แต่ไม่สามารถเอาผิดใครได้เพราะติดกฎหมายคุ้มครองสัตว์ ได้ออกมาระบายความในใจผ่านเฟซบุ๊ก Pun Sirikwan ระบุว่า หลายชายของเธอถูกสุนัข 2 ตัวรุมกัดขณะไปซื้อขนม มีบาดแผล 20 กว่าเขี้ยว แต่เอาผิดเจ้าของสุนัขไม่ได้เพราะฝ่ายนั้นอ้างว่าไม่ใช่สุนัขของตัวเอง ครั้นจะฆ่าสุนัขที่กัดหลาน ก็กลัว พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์

          ดังนั้นท้ายที่สุดแล้ว เพราะมีกฎหมายคุ้มครองและเจ้าของสุนัขปฏิเสธ หลายของเธอจึงโดนสุนัขกัดฟรีไป หรือว่าปัจจุบันสุนัขสำคัญว่าเด็กไปแล้ว

          ทั้งนี้หลังจากที่คุณ Pun Sirikwan ได้โพสต์ข้อความข้างต้น พร้อมรูปของหลายชายที่เต็มไปด้วยบาดแผลจากสุนัขกัดทั้งตัว ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นในหลาย ๆ แง่มุม โดยมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยว่ากฎหมายดังกล่าว ทำให้ทุกวันนี้สุนัขดูจะได้รับการคุ้มครองดูแลดีกว่าคนเสียอีก ทั้งที่มีคนได้รับความเดือดร้อนจากสุนัขอยู่อีกมาก แต่กลับไม่ได้รับการดูแล หากใครโลกสวยก็คงบอกเพียงว่าทำไมไม่ดูแลเด็กให้ดี โดยไม่มองถึงผลที่เกิดขึ้นหลังมีเหตุเช่นนี้ ขณะที่บางคงยังชี้ว่า หากรัฐบาลคิดจะออกกฎหมายคุ้มครองสัตว์แล้ว ก็น่าจะช่วยออกกฎหมายรองรับหรือออกบทลงโทษเจ้าของในกรณีที่มีผู้เดือดร้อนจากการถูกสุนัขกัดด้วย

          แต่ก็ไม่วายมีคนรักสุนัขที่ออกมาชี้ว่า ไม่อยากให้โจมตี พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ เพราะมันเป็นคนละประเด็นกัน สำหรับในกรณีนี้ขอแนะนำว่าหากเพื่อนบ้านไม่ยอมรับผิด ก็สามารถนำบุคคลอื่น ๆ ที่เป็นพยานมายืนยันก็ได้ หรือหากเป็นสุนัขจรจัดจริงก็น่าจะแจ้งเทศบาลมาจัดการ ไม่ใช่โทษว่าเป็นเพราะกฎหมาย จึงเจ็บตัวฟรี

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Pun Sirikwan